วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555

พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า
ตอนที่ 1 "เกริ่นนำ" 
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
        สำหรับเรื่องราวของพระศรีอริยเมตไตรย์นั้น ถ้าใครที่เคยได้ยินหรือได้ฟังเรื่องราวของพระองค์มาก่อนหน้านี้ ก็คงพอจะทราบกันมาบ้างแล้วว่า พระองค์ คือ
 บุคคลที่จะมาบังเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป และยังถือเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์สุดท้ายของภัทรกัปนี้อีกด้วย ซึ่งเรื่องราวของพระ
ศรีอริยเมตไตรย์ รวมถึงเรื่องราวของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในแต่ละพระองค์นั้น ถือเป็นเรื่องราวที่พวกเราชาวพุทธทุกๆคนควรจะรู้ และจำเป็นต้องรู้ เพื่อที่เรา
จะได้นำเอาเรื่องราวการสร้างบารมีของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ มาเป็น ทิฏฐานุคติ หรือเอามาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตของพวกเราชาวพุทธรวม
 ถึงชาวโลกทุกคนด้วย เรื่องราวทั้งหมดที่นำมากล่าวนี้ มีบันทึกอยู่ในพระคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา ทั้งที่เป็นเนื้อความจากพระไตรปิฎก, อรรถกถา และในพระคัมภีร์

        พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะมีลักษณะมหาบุรุษเหมือนกัน แต่จะต่างกันตรงขนาด ตามกำลังแห่งพระบารมีที่พระองค์ทรงสั่งสมมา ตั้งแต่พระปัญญาธิกพุทธเจ้า
 สร้างบารมีมายาวนาน 20-อสงไขย กับอีกหนึ่งแสนมหากัป พระสัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีมายาวนาน 40-อสงไขย กับอีกหนึ่งแสนมหากัป และ พระวิริยาธิกพุทธเจ้า
 สร้างบารมีมายาวนาน 80-อสงไขย กับอีกหนึ่งแสนมหากัป

        พระศรีอริยเมตไตรย์ ท่านเป็นพระวิริยาธิกพุทธเจ้า ซึ่งใช้เวลาในการสร้างบารมีมากกว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ถึงสี่เท่า เพราะฉะนั้น จะเหมือนกันแค่
ลักษณะมหาบุรุษ พระฉัพพรรณรังสีที่เปล่งตามปกติจะต่างกัน ความสว่างจากพระวรกายจะต่างกัน ขึ้นอยู่กับกำลังบารมี การบังเกิดของท่านก็จะแตกต่างกัน
 แต่บรรลุธรรมเหมือนกัน ความรู้เดียวกัน คือ ความรู้ที่จะดับกิเลส หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ จะเหมือนกันไม่แตกต่างกัน อีกทั้งการเดินทางไปสู่อายตนนิพพานก็จะเหมือนกัน

        ความแตกต่างกันอีกประหนึ่ง คือ โลกในยุคนี้กับโลกในยุคนั้น จะแตกต่างกันทั้ง อากาสโลก ขันธโลก และสัตวโลก กล่าวคือ ดิน อากาศ ฟ้า ต้นไม้ ภูเขา
 แม่น้ำ จะแตกต่างกัน ความเป็นอยู่ของผู้คน สังคม เศรษฐกิจ การเมือง จะแตกต่างกัน รวมไปถึงปัจจัยสี่ด้วย กระทั่ง รูปสมบัติ ลักษณะของร่างกายของมนุษย์
ในยุคนี้กับมนุษย์ในยุคนั้นก็จะแตกต่างกันด้วย

         พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราพระองค์นี้ อยู่ในยุคปลายของกัปไขลง แต่พระศรีอริยเมตไตรย์ อยู่ในยุคต้นของกัปไขลง คือ อายุของมนุษย์จากอสงไขยปี
 ลดลงมาเหลือ แปดหมื่นปี ซึ่งเป็นระดับที่กำลังพอดีที่พระองค์จะทรงบังเกิดขึ้น การสอนธรรมะที่พระองค์ตรัสรู้ก็จะเข้าใจง่าย หากมนุษย์มีอายุมากกว่านั้น
การที่จะพูดถึงความไม่เที่ยง การที่จะพูดถึงเรื่องเกิด แก่ เจ็บ ตาย ก็จะเข้าใจได้ยาก มนุษย์ที่มาเกิดในยุคของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา คือ ยุคปลายของกัป
ไขลงนี้ เป็นประเภทผู้ที่อุปมาเหมือนบุญเท่ากำปั้น บาปเท่ากระบุง กล่าวคือ บุญน้อยบาปเยอะ แต่มนุษย์ที่มาเกิดในยุคของพระศรีอริยเมตไตรย์ คือ ยุคต้นของ
กัปไขลง จะเป็นผู้ที่อุปมาเหมือนบุญเท่ากระบุง บาปเท่ากำปั้น จะกลับตาลปัตรกัน เพราะฉะนั้น ในเวลาที่บุญ-บาป ปรุงแต่งส่งผล ในแต่ละยุคจึงแตกต่างกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น